"รูปแบบของหลักสูตร หลักสูตร Scottish Graduate Programme in Economics นั้น แม้จะยังเป็นที่รู้จักค่อนข้างน้อยในหมู่นักเรียนไทย และมีนักเรียนไทยที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรนี้น้อยมาก แต่หลักสูตรดังกล่าวเองก็ได้รับการยอมรับค่อนข้างมากในประเทศสหราชอาณาจักร และอยู่ในอันดับที่ค่อนข้างสูงจากการจัดอันดับปีล่าสุด นอกเหนือจากนี้หลักสูตรดังกล่าวเป็นการประสานความร่วมมือของมหาวิทยาลัยชั้นนำในสกอตแลนด์จำนวน 8 แห่ง และมหาวิทยาลัย Milan-Biocca ในอิตาลี ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้สัมผัสองค์ความรู้ที่หลากหลายผ่านคณาจารย์จากหลายสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญและโดดเด่นแตกต่างกันออกไปตามสาขาวิชา เช่น ด้าน Microeconomics จาก University of Edinburgh เอง ด้าน Experimental Economics และ Personnel Economics จาก University of Aberdeen หรือด้าน เศรษฐมิติ จาก University of Strathclyde และ University of Stirling
นอกจากนี้ยังทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ได้จากมหาวิทยาลัยร่วมในหลักสูตรดังกล่าว ทำให้ผู้เรียนสามารถศึกษาและจัดทำวิทยานิพนธ์ได้ตรงตามสาขาที่สนใจอย่างแท้จริง
การเรียนการสอนในหลักสูตรเองก็มีความหลากหลาย ทั้งการบรรยายรูปแบบปกติ การสัมมนาเชิงกลุ่มโดยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากรัฐบาลกลางของอังกฤษ และรัฐบาลสกอตแลนด์ ผู้บริหารระดับสูงของภาคธุรกิจ การบรรยายจากสถานที่จริงนอกห้องเรียน ที่นี่คงเป็นแห่งเดียวในโลกที่ผู้เรียนสามารถฟังบรรยายทฤษฎีการจัดสรรทรัพยากรบริเวณสุสานของทั้งอดัม สมิธ และเดวิดฮูม ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างมากในสาขาเศรษฐศาสตร์
การเรียนการสอนนั้น มีการประเมินผลด้วยรูปแบบที่หลากหลาย มิได้จำกัดเพียงการทดสอบข้อเขียน หากหมายรวมถึงการเขียนบทความวิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์ การเสนอโครงการวิจัยขนาดย่อมที่ดำเนินงานเป็นกลุ่มโดยมีการเสนอผลงานในการสัมมนานอกสถานที่ ซึ่งการเสนอผลงานนอกสถานที่นี้เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการเสนอหัวข้อโครงการดุษฎีนิพนธ์ของนักศึกษาระดับปริญญาเอก ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนและบูรณาการความรู้ระหว่างกันอีกทางหนึ่ง
ส่วนสุดท้ายที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหลักสูตรก็คือ สาธารณูปโภคพื้นฐานที่ทางคณะและมหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมไว้รองรับ ทั้งการเข้าถึงแหล่งค้นคว้าทั้งในรูปแบบของหนังสือ บทความ วารสารวิชาการ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ความใส่ใจของบุคลากรทั้งเจ้าหน้าที่หลักสูตร เจ้าหน้าที่ส่วนกลางฝ่ายงานทะเบียน ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ และฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ ศูนย์กีฬาและนันทนาการอันทันสมัย รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นเพื่อสร้างสมดุลให้กับการเรียนและการเข้าสังคม ทั้งหน่วยงานของมหาวิทยาลัยเอง และกิจกรรมที่ดำเนินการโดยองค์การนักศึกษา
อจากปัจจัยของตัวหลักสูตรและมหาวิทยาลัยแล้ว ตัวเมืองที่อยู่อาศัยก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะแม้ผมจะได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่ดีในระดับดียวกันหรือดีกว่า แต่ผมเลือกเอดินบะระ ด้วยสาเหตุที่เอดินบะระ ได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในสหราชอาณาจักรหลายปีติดต่อกันจากหลายสำนัก
เอดินบะระเป็นเมืองที่อากาศดี มลพิษต่ำ และเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอากาศเย็นเล็กน้อย ฤดูร้อนอากาศไม่ร้อนจนเกินไป มีทำเลที่ตั้งที่ใกล้ทั้งพื้นทีสีเขียว ภูเขา ทะเล และทางเดินธรรมชาติที่ใช้เวลาเดินทางจากกลางเมืองไม่เกิน 45 นาที ด้วยขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ และกำลังขยายการขนส่งในระบบรางภายในปี 2011
เอดินบะระยังเป็นเมืองที่ประชากรส่วนใหญ่ทำงานในลักษณะใช้ทักษะฝีมือและงานสำนักงาน ประชากรมีรายได้และระดับการศึกษาเฉลี่ยที่สูง อัตราการว่างงานที่ต่ำเช่นเดียวกับอัตราอาชญากรรมที่ต่ำมากทำให้รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย ผู้คนมีความเป็นมิตรค่อนข้างมากและมีสำเนียงภาษาอังกฤษที่ฟังไม่ยากนักเมื่อเทียบกับสำเนียงสกอตในภูมิภาคอื่น สำเนียงไอริช สำเนียงอัลสเตอร์ หรือสำเนียงอังกฤษบางพื้นที่
ขณะเดียวกัน เอดินบะระก็เป็นเมืองที่ผสานระหว่างศิลป์และศาสตร์ได้อย่างลงตัว ในเมืองมีพิพิธภัณฑ์ดีๆ หลายแห่ง ทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่ถูกขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก และมีงานเทศกาลจัดขึ้นในเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงาน Edinburgh Festival ที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้เอดินบะระยังเป็นเมืองขนาดที่ไม่ใหญ่และเล็กจนเกินไป มีห้างร้านครบครัน มีร้านอาหารในระดับดีเป็นจำนวนมาก
ความประทับใจในการเรียนนั้นคงเริ่มจากสถานที่เรียน มีไม่กี่แห่งในโลกที่คุณจะได้เรียนในอาคารที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก อย่าง The Old College แต่ที่ประทับใจที่สุดคงเป็นความเอาใจใส่ของบรรดาคณาจารย์ในหลักสูตร ทั้ง Program director ที่มีการประชุมพูดคุยกับนักเรียนในหลักสูตรเสมอ มีชั่วโมงว่างให้สามารถปรึกษาตลอดจนตอบสนองต่อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ได้รวดเร็ว
เช่นเดียวกันกับอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ที่เอาใจใส่ผู้เรียนเป็นอย่างดี สามารถนัดหมายพูดคุยรายงานความคืบหน้าของวิทยานิพนธ์ได้โดยตลอด พร้อมทั้งให้คำแนะนำและหนังสือตลอดจนสิ่งพิมพ์อื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการทำวิทยานิพนธ์
ตัวหลักสูตรเองก็มีการปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นปัจจุบันโดยตลอด มีการเรียนรู้ผ่านผลงานวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ควบคู่กับตำราปกติ ทำให้องค์ความรู้ที่ได้มีความเป็นปัจจุบันและร่วมสมัย ผู้สอนตอบข้อสงสัยได้ตรงประเด็น และมีงานมอบหมายและการบ้านเป็นประจำทุกสัปดาห์และทุกรายวิชาในรูปแบบงานกลุ่ม ทำให้ผู้เรียนมีการพัฒนาและทบทวนความรู้อยู่โดยตลอด นอกจากนี้ งานมอบหมายยังก่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนทั้งในเชิงวิชาการและสังคม
ส่วนสุดท้ายคือสังคมระหว่างผู้เรียนที่มีความหลากหลาย มีนักเรียนจากทั้งเอเชีย (ที่มิได้จำกัดเพียงจีนและอินเดีย) ยุโรปภาคพื้นทวีป แอฟริกา อเมริกา และนักเรียนภายในสหราชอาณาจักร ความเป็นพหุสังคมเช่นนี้ทำให้ผู้เรียนมีสังคมและโลกทัศน์ที่กว้างไกลยิ่งขึ้น จนถึงปัจจุบันผมยังคงติดต่อกับเพื่อนร่วมหลักสูตรอยู่โดยตลอด ทั้งประเด็นด้านวิชาการและประเด็นทั่วไป
สำหรับความประทับใจในการใช้ชีวิตนั้นมีค่อนข้างมาก เนื่องด้วยเอดินบะระเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีรูปแบบการดำเนินชีวิต (lifestyle) ที่สอดรับกับผมค่อนข้างมาก ทุกๆ สัปดาห์ผมมักจะมีกิจกรรมที่เปลี่ยนไปเสมอเพื่อผ่อนคลายจากการเรียนในตลอดวันจันทร์ถึงศุกร์ ทั้งกีฬาร่วมกับเพื่อนในหลักสูตร การไปชมละคร คอนเสิร์ต การไปเดินชมส่วนจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์หลายๆ แห่ง การชอปปิง การรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนโดยผลัดกันเป็นเจ้าบ้าน การเดินทางไปพักผ่อนในต่างเมืองทั้งในและนอกสกอตแลนด์
ท้ายที่สุดคงเป็นความประทับใจในภาพรวมของความเป็นสกอต ที่มีรากเหง้าวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้งภาษา ศาสนา ระบบการศึกษา ระบบกฎหมาย ระบบการเงินแม้จะอยู่ภายใต้ธงยูเนี่ยนแจ๊คเช่นเดียวกับดินแดนอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร มีค่อนข้างมากซึ่งควรจะเขียนแจกแจงออกมาเป็นรายข้อ ดังนี้
- ควรจะหาโอกาสไปเดินชมพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะ Museum of Scotland เพราะจะทำให้คุณเข้าใจและภูมิใจในความเป็นสกอตมากขึ้น และจะเข้าใจว่าชาติเล็กๆ แห่งนี้ เป็นชาติที่คิดค้นนวัตกรรมและทฤษฎีเป็นจำนวนมากที่เราอาจจะคาดไม่ถึง Museum of the Mound ที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับเงินล้าน (ปอนด์)นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่นี่ยังมีงานดีๆ หมุนเวียนมาจัดแสดงมิได้ขาด ทั้งงานของ ปิกัสโซ โมเนต์ เรอนัวร์ โกยา ฯลฯ สามารถไปดูได้เรื่อยๆ โดยไม่เบื่อ
- งานคริสต์มาสและปีใหม่ของที่นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ทั้งตลาดเยอรมัน สวนสนุกขนาดย่อม และการปิดถนน Princes Street ในวันสิ้นปี เพื่อฉลองปีใหม่แบบสกอตแท้ๆ ที่เรียกว่า Hogmanay
- Edinburgh Festival งานเทศกาลศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป ตลอดเดือนสิงหาคม ทั้งการแสดงบนถนน Royal Mile ตลอดจนการแสดงในร่ม รวมไปปถึงการสวนสนาม Military Tattoo บนลานปราสาทเอดินบะระ
- การเดินป่าปีนเขา (Trekking) ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Calton Hill หรือ Arthur’s seat กลางเมือง การเดินตามทางเดินธรรมชาติลัดเลาะริมแม่น้ำลีธไปจนสุดยังทะเลทางตอนเหนือของเมือง ระหว่างทางจะผ่านย่านที่อยู่อาศัยอันสวยงามอย่าง Stockbridge รวมถึงแปลงปลูกดอกไม้ แปลงปลูกผัก และน้ำตกขนาดย่อมๆ รวมถึงสนามหญ้าที่ครั้งหนึ่งเคยใช้สำหรับสุนัขเกรย์ฮาวนด์ หรืออาจจะออกไปนอกเมืองสักเล็กน้อยก็จะมีจุดชมวิวดีๆ หลายแห่ง เหมาะแก่การเดินป่าระยะสั้นและปิกนิก
- การลิ้มลองอาหารพื้นเมืองสกอต อย่าง ฮักกิสที่เป็นไส้กรอกประเภทหนึ่ง ขนมปังชอร์ทเบรด ดันดีเค้ก คัลเลนสกิงค์หรือซุปปลาแบบสกอต รวมไปถึงแซลมอนซึ่งเป็นสินค้าที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของดินแดนแห่งนี้ สำหรับเครื่องดื่มที่น่าสนใจและไม่มีแอลกอฮอล์คือ Irn Bru (ไอร์ออน บรู) ซึ่งเป็นน้ำอัดลมประจำถิ่นของที่นี่
- ในกรณีพุทธศาสนิกชน การหาโอกาสไปยังวัดไทยธรรมปทีปย่าน Slateford ก็คงจะเป็นการดีไม่น้อย หรืออาจจะไปร่วมงานของชุมชนคนไทยที่นั่นเช่น งานลอยกระทง งงานสงกรานต์ เป็นต้น
- การหาโอกาสไปชมละครดีๆ หรือบัลเล่ต์ดีๆ ของคณะ Scottish Ballet โดยโรงละครที่จัดแสดงก็จะอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยคือ Festival Theatre
- การหาโอกาสไปยังต่างเมือง เพราะแต่ละแห่งจะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ทั้งเมืองใหญ่ อย่าง กลาสโกว์ ดันดี อเบอร์ดีน สเตอร์ลิง อินเวอร์เนส หรือเมืองเล็กๆ เช่น เซนต์ แอนดรูวส์ ดันเฟิร์มลิน และเมืองรายทางในแถบไฮแลนด์ เป็นต้น
- การเรียนรู้ภาษาท้องถิ่นที่เรียกว่าภาษาเกลิกอย่างง่ายๆ ในช่องโทรทัศน์ท้องถิ่นนี้ยังคงมีการให้เสียงเป็นภาษาเกลิกอยู่บ้าง รวมไปถึงการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบสกอตในหลายพื้นที่ เช่นสำเนียงแบบเอดินบะระและกลาสโกว์ที่ต่างกันมากพอควร แม้ว่าการฟังครั้งแรกอาจไม่คุ้นชิน แต่เมื่อฟังเป็นระยะเวลานานเข้า ก็อาจจะพบความไพเราะและเสน่ห์ของสำเนียง
- การซึมซับวรรณกรรมของสกอตแลนด์ นอกเหนือจากงานของ เจ เค โรว์ลิ่งส์ที่เป็นที่รู้จักแล้ว อาจพิจารณางานนวนิยายแนวอาชญากรรมของ Ian Rankin รวมไปถึงบทกวีที่ไพเราะและมีความหมายลึกซึ้งของ Robert Burns เจ้าของเพลง Auld Lang Syne หรือสามัคคีชุมนุมที่รู้จักกันดี ฯลฯ
• เรื่องอื่นๆ ที่อยากแนะนำให้ผู้ที่สนใจไปศึกษาต่อ
ผมเชื่อว่าทุกคนคงมีการเตรียมตัวและหาข้อมูลเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ และถ้าคุณได้ทำสองสิ่งข้างต้นอย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่าคุณคงไม่อาจปฏิเสธที่จะเลือกไปศึกษาต่อยังสกอตแลนด์ได้ สกอตแลนด์มีความแข็งแกร่งทางวิชาการในหลายๆด้าน เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพ รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ทั้งภูมิอากาศ ภูมิสังคม วัฒนธรรม ตลอดจนสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ครบครัน ที่เอื้อให้การเรียนและการใช้ชีวิตเป็นไปด้วยความสุขและสมดุล คุณไม่อาจรับรู้ความรู้สึกเช่นนั้นได้ ตราบใดที่คุณยังไม่มีโอกาสมาศึกษาต่อที่นี่ ที่ซึ่งคุณจะประทับใจและไม่อาจจะบรรยายและถ่ายทอดออกมาได้หมด เฉกเช่นเดียวกับความรู้สึกของผมครับ
"