Scottish Universities Alumni
Minchaya Trakulmatuta (Minsk)
LLM Intellectual Property Law and the Digital Economy
University of Glasgow
"​1.ความประทับใจเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย- ให้ความรู้สึกเหมือนเรียนในฮอกวอต ตึกmain building สวยมาก แต่ที่ประทับใจมากๆคือ ผู้คนที่นี่ น่ารัก เป็นมิตรมาก หลายๆครั้งเขาจะเข้ามาชวนเราคุย ทำให้ได้มิตรภาพใหม่ๆอยู่เสมอและมีโอกาสฝึกภาษาค่อนข้างเยอะ ที่สำคัญมากๆคือ เขาพร้อมจะให้ความช่วยเหลือตลอด ถ้าหลงทางนี่ถามได้ทุกคนเลยค่ะ แล้วนอกจากนี้อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยก็ใจดีและขอคำปรึกษาได้ตลอด
2. ความประทับใจที่มีต่อ Scotland - เป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ชัดเจนทางด้านวัฒนธรรมและ มีภูมิทัศน์ที่สวยงามมาก ใครที่ชอบธรรมชาติหรือชอบเรียนรู้วัฒนธรรม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจ
3. ความประทับใจที่มีต่อพี่ Counsellor ที่ McDucation- พี่ๆน่ารักมากค่ะ สามารถปรึกษาได้ตลอด เวลามีปัญหา ตั้งแต่ก่อนมาถึงจนกระทั่งหลังจากมาถึงแล้ว พี่ๆจะช่วยแก้ไขและให้คำแนะนำได้รวดเร็วมาก ค่ะ ประทับใจมาก

----

สก็อตแลนด์และเมืองที่ไปอยู่เป็นยังไงบ้าง :
- สก๊อตแลนด์เป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และภาษา(สำเนียง) ภาพที่คิดไว้ตอนแรก ถ้าถามถึงสก็อตแลนด์คงนึกถึงปี่สก็อตกับสก็อตวิสกี้ แล้วก็ไฮแลนด์ ซึ่งพอมาอยู่จริงๆ แล้วภาพที่คิดไว้เป็นแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น มีหลายๆอย่างที่สวยเกินความคาดหมายไว้มาก
- ส่วนเมืองกลาสโกวที่อยู่ ถ้าให้นิยามคงนิยามว่า เป็นเมืองที่ “สนุก” สิ่งสำคัญที่ทำให้เมืองนี้น่าอยู่คือผู้คนที่เป็นมิตร ชอบช่วยเหลือ บ่อยครั้งที่มักจะมีผู้คนเข้ามาชวนคุยก่อน ทักทาย ยิ้มแย้มเสมอ และทุกครั้งที่ประสบปัญหาคนที่นี่ก็ไม่เคยลังเลที่จะหยิบยื่นน้ำใจเข้าช่วยเหลือ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศที่จะทำให้เราได้ฝึกฝนและเรียนรู้ภาษากับวัฒนธรรมได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องสาธารณูปโภคและความเป็นอยู่ ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่ จึงมีทุกอย่างที่ต้องการครบถ้วน ทั้งร้านอาหาร สถานที่พักผ่อน ช็อปปิ้ง ตอนแรกก่อนมาที่นี่มักจะได้ยินเรื่อง “สำเนียง” ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์มากๆ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่ถ้าเทียบกับอย่างอื่นที่คิดไว้ตอนแรกกับที่ได้เจอ นับว่าเหนือความคาดหมายมากๆ เพราะถึงเป็นสังคมเมืองขนาดใหญ่ แต่ผู้คนกลับหันหน้าเข้าหากัน ทำให้การเข้าสังคมที่นี่เป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะมาก
-เรื่องสภาพอากาศ เป็นหัวข้อหลักในการเริ่มบทสนทนาของคนที่นี่ ฤดูหนาวเป็นช่วงที่อุณหภูมิเฉลี่ยเลขหลักเดียว แต่อย่าคิดว่าจะอยู่ท่ามกลางหิมะปุยขาว เพราะในความเป็นจริงน้านนนน!!! มันหนาว แต่มันหนาวไม่มากพอจะเป็นหิมะ มันคือการเจอฝน พร้อมกับอุณหภูมิเลขหลักเดียวอย่างดีคือสิบต้นๆ แต่ไม่ใช่หิมะ มันคือฝนเป็นเม็ดๆ ตกต่อเนื่องบางทีก็เกือบอาทิตย์ วันไหนที่อุณหภูมิติดลบ ฝนก็มักจะไม่ตก สงสัยมันกลัวที่จะต้องกลายร่างเป็นหิมะ พระอาทิตย์คือสิ่งที่คุณถวิลหา แต่ ณ ตอนนี้มันจะมาให้เจอวันละไม่เกินเจ็ดชั่วโมง วันไหนโชคร้ายฝนตกก็ไม่ได้เจอมันเลย บางวันที่พายุเข้า ซึ่งปีนี้ก็จัดว่าไม่น้อย ลมแรงพร้อมฝนก็ผนึกกำลังกัน แต่ฤดูอื่นอากาศก็โอเคนะ

มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง :
- มหาวิทยาลัยสวยมาก เหมือนเรียนในฮอกวอต ตั้งอยู่ในเขต west-end ซึ่งอยู่ในย่านที่พักอาศัยค่อนข้างปลอดภัย มีสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์อยู่ใกล้ๆ รอบๆมหาวิทยาลัยมีร้านอาหารให้เลือกหลายร้าน และมีรถไฟใต้ดินไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ส่วนห้องสมุดก็ค่อนข้างใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งหนังสือและบทความออนไลน์ นอกจากนี้ยังมียิมของทางมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่ให้ออกกำลังกายทั้ง ว่ายน้ำ โยคะ บาส มวย สควอช ฟิตเนส และอื่นๆอีกมากมาย (แต่คนที่ไม่อยู่หอในเสียค่าเมมเบอร์นะ) นอกจากนี้ในมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมให้เลือกเข้าร่วมเยอะมาก ทำให้มีโอกาสได้เจอเพื่อนใหม่จากหลากหลายประเทศและได้ฝึกฝนภาษา

หอพักที่ไหน ที่พักเป็นยังไงบ้าง :
- ส่วนตัวเราเช่าแฟลตอยู่ข้างนอก ผ่านทางเว็บ www.glasgowpad.org เป็นเว็บที่ทางมหาวิทยาลัยแนะนำ ที่พักราคาไม่แพงถ้าเทียบกับหอของมหาวิทยาลัย ยิ่งถ้ามีรูมเมทหาร ราคายิ่งต่ำลงไปอีก ส่วนเรื่องความปลอดภัยก็ปลอดภัยดี เวลาเครื่องใช้ในบ้านมีปัญหาก็แจ้งแลนด์ลอร์ดได้ตลอด เขาก็มาเปลี่ยนให้ทันที ไม่เคยมีปัญหาของหายหรืออันตรายเวลาเดินกลับบ้าน ข้อเสียก็ตรงที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยยี่สิบนาที ถ้าจะอยู่ข้างนอกอาจต้องดูเรื่องแลนด์ลอร์ดดีๆ บางคนก็หาที่พักชั่วคราวมาก่อนแล้วค่อยมาหาบ้านพักยาวตอนมาอยู่ที่นี่อีกที อาจจะหาผ่านเอเจนซี่ก็ได้ ข้อดีคือได้มาเห็นที่พักก่อน ได้เจอแลนด์ลอร์ดก่อนทำสัญญา ส่วนคนที่อยู่หออาจมีข้อดีตรงที่ได้เจอเพื่อนใหม่ๆที่เป็นรูมเมทและมีแม่บ้านดูแลความสะอาด แต่ข้อเสียคือเรื่องสัญญาณไฟไหม้ชอบดัง หลายๆหอชอบดังตอนเช้าตรู่ และเรื่องความเสี่ยงที่อาจเจอเมทไม่ดี
คอร์สที่ไปเรียนเป็นยังไงบ้าง :
- คอร์สที่เรียนเริ่มจากคอร์สพรี...เนื้อหาที่เรียนจะเน้นเรื่องการเขียนงานวิชาการ การค้นคว้าหาข้อมูลและการอ้างอิงซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากเวลาเข้าเรียนจริงในมหาวิทยาลัย 5 สัปดาห์สุดท้ายจะเป็นการเรียนเนื้อหาในสาขาวิชาเฉพาะด้าน อย่างทางกฎหมายก็จะมีการปูพื้นฐานกฏหมายในระบบcommon law และยุโรป และมีการฝึกให้อ่านและวิเคราะห์คดีต่างๆ มีการให้ฝึกโต้วาที และมีการเข้าร่วมสัมมนา ด้านเพื่อนร่วมชั้นเป็นชาวจีนเกือบทั้งหมด นอกจากจะได้ภาษาอังกฤษแล้วอาจได้ภาษาจีนมาเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่ข้อดีของเพื่อนจีนคือ เป็นมิตร เข้าหาง่าย และมีสไตล์การใช้ชีวิตที่คล้ายๆกัน ช่วยเหลือกันเวลาเรียน ข้อเสียของการเรียนพรีที่กลาสโกวคือ เครียด การเรียนพรีไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากความกดดันตลอดเวลาที่เรียน ครูจะค่อนข้างเข้มงวด (เฉพาะกฏหมายเท่านั้น สาขาอื่นไม่ค่อยเครียด) ส่วนเรื่องการสอบพรีมีทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน และมีงานเอสเสวิชาการ 2,000 คำ แยกออกมาอีกหนึ่งชิ้น
- คอร์สเรียนป.โท สาขากฏหมายจะให้เลือกเรียนสี่วิชาทั้งปี เรียนยาวสองเทอม ถ้าอยากเรียนเพิ่มก็สามารถขอออดิดได้ ข้อดีของการเรียนยาวสองเทอมคือ วิชามันไม่อัดแน่นมาก ทยอยเรียน เทอมแรกที่ยังอยู่ในช่วงปรับตัวก็อาจจะไม่หนักมาก ถ้าเทียบกับบางคนที่เรียนแบบจบวิชาเป็นรายเทอม แต่ข้อเสียคือ เทอมสองนี่นรกมาก เพราะงานจะหลั่งไหลเข้ามาพร้อมกับข้อสอบไฟนอล และตอนคนอื่นเขาปิดเทอมหนึ่ง(พวกเรียนจบรายเทอม) อาจจะไม่รู้สึกเหมือนปิดเทอมเท่าไหร่เพราะต้องทำเอสเสส่งต้นเทอมสองอีก
ส่วนใหญ่การเก็บคะแนนทั่วไปก็จะเป็นเขียนเอสเส25% สอบ75% (ในเทอมแรกเก็บ 25% เทอมหลังอีก 75%) ยกเว้นบางวิชาก็เก็บคะแนนด้วยการเขียนเอสเสเพียงอย่างเดียว บางวิชาก็มีเทคโฮม 50% เขียนเอสเสอีก 50%

วิชาเรียนในสาขาทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจากมีสมาชิกไม่มาก คาบส่วนใหญ่จึงออกแนวสัมมนา มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และบางคาบอาจารย์ก็จะเรียกชื่อให้ตอบคำถาม ดังนั้นการเรียนที่นี่จึงต้องเตรียมตัวอ่านบทความและหนังสือที่อาจารย์แนะนำก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง (มากสุดที่เจอคือวิชาเดียวมีบทความให้อ่านต่ออาทิตย์เกือบ 10 บทความ ส่วนปกติอยู่ประมาณ 3-4 บทความ) บางวิชาจะมีการให้จับกลุ่มแลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนในห้อง แล้วค่อยมาสรุปเนื้อหาที่ได้ หรือที่ชอบมากคือบางครั้งมีการให้จำลองบทบาทสมมุติ เช่น ในวิชา e-commerce ว่าถ้าเราเป็นนักกฎหมาย ถ้าเราเป็นนักธุรกิจ แล้วถ้าเราเป็นฝ่ายช่างเทคนิคทางคอมพิวเตอร์เราจะทำอย่างไรจะจัดการยังไงกับปัญหานั้นๆ หรืออย่างในวิชา copyright ก็เคยมีการจำลองให้ในกลุ่มหยิบยกประเด็นของลิขสิทธิ์ขึ้นมาแล้วสมมุติว่าถ้าเราเป็นนักกฎหมายเราจะฟ้องในด้านใดด้วยเรื่องอะไร บางวิชาก็จะมีการเชิญวิทยากรจากข้างนอกมาให้ความรู้อีกด้วย ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คืออาจารย์ที่นี่จะเป็นมิตรและชอบเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนความเห็น สอบถามอาจารย์ได้ตลอด อาจารย์บางคนก็จะให้กำลังใจและเข้าใจความเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

ส่วนเพื่อนร่วมชั้นนั้นมีหลากหลายประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะมาจากยุโรปค่อนข้างเยอะ เพื่อนจีนรองลงมา มีเพื่อนชาวสก็อตแลนด์และอเมริกันประปราย ส่วนคนไทยปีนี้มีเรียนสาขากฎหมายทั้งหมด 8 คน โดยรวมถ้าเทียบกับที่อื่นถือว่าไม่เยอะไม่น้อย พอช่วยเหลือกันได้ ในขณะเดียวกันก็ได้มีโอกาสฝึกฝนภาษากับเพื่อนต่างชาติค่อนข้างมาก ส่วนทางด้านกิจกรรม สาขากฎหมายมีกิจกรรมให้เข้าร่วมเยอะมาก ทั้งแนววิชาการและแนวบันเทิง

ปล.มักมีคำถามที่เจอบ่อยว่าเรียนหนักไหม อันนี้เราว่าขึ้นกับตัวบุคคล ถ้าเป็นคนขยันรักการเรียนการอ่านและมีฐานภาษาที่ดีก็คงไม่ยาก สำหรับเราที่เรียนที่นี่เป็นใบแรก เราว่าหนักหนาเอาการอยู่ เพราะต้องอ่านบทความก่อนเข้าเรียนเยอะมาก ถ้าเป็นคนอ่านช้าอาจต้องทำการบ้านหนัก ยิ่งภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาแม่ด้วยแล้ว ต้องสตรองงงง!!! อยู่นี่ต้องขยันเรียนกว่าที่ไทยมากเพราะต้องอ่านก่อนเข้าเรียน เนื่องจากกลัวคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง! และจากคำบอกเล่าของพี่ๆบางคนที่มาเรียนที่นี่เป็นใบที่สอง เขาก็บอกว่าหนักกว่าตอนเรียนใบแรกแม้ใบแรกจะเป็นแบบ วิชาจบในเทอม เทอมละสองวิชา (ทั้งนี้ทั้งนั้นความเห็นทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยและความเห็นส่วนบุคคลค่ะ บางคนอาจค้นพบว่ามันไม่ได้ยากก็ได้)
 "
*แมคดูเคชั่น สถาบันส่งเสริมการศึกษาต่อสก็อตแลนด์
ก่อตั้งขึ้นโดยศิษย์เก่าสก็อตแลนด์ และเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยสก็อตแลนด์ทุกแห่ง ที่เดียวในประเทศไทย แมคดูเคชั่นมีทีมที่ปรึกษาที่เป็นศิษย์เก่าและอดีตเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยต่างๆในสก็อตแลนด์ ได้รับความสนับสนุนทางการเงินโดยตรงจากมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภาครัฐ นักเรียนสามารถขอรับคำแนะนำจาก McDucation โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในทุกขั้นตอน